ผู้เขียนเห็นว่ามีผู้ใช้งาน Microsoft SQL Server จำนวนมากที่เข้ามาอบรมกับผู้เขียน ทำการจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับวันและเวลาเอาไว้เป็นตัวหนังสือ เพียงเพราะหวังจะสตัฟฟ์มันไว้ คือเห็นตอนกรอกอย่างไร จัดเก็บไว้อย่างนั้น เรียกขึ้นมาดูก็สบายใจเพราะมันก็อยู่ของมันอย่างนั้น
หากเราไม่พึ่งพา Microsoft SQL Server Analysis Service ในการเตรียม Data Model ไว้ล่วงหน้า Power BI มีความสามารถในการสร้าง และใช้งาน Data Model บนตัวของมันเอง เพราะถูกออกแบบให้เป็นเครื่องมือแบบ Self Service(ชงเอง กินเอง)
การนำเอา Microsoft SQL Server 2017 Datasheet มาเล่า และทดลองให้เห็นผ่านตัวอย่างเล็ก ๆ ก็ดำเนินมาถึงตอนสุดท้ายกันแล้ว ผู้เขียนจะขอเล่าถึงส่วนสุดท้ายใน Datasheet ที่จั่วหัวไว้เป็น “End-to-end mobile BI on any device” ซึ่งในรูปประกอบนั่นคือการเปรียบเทียบต้นทุนการได้มาของ Modern Reports บนโทรศัพท์มือถือที่ Microsoft ทำได้ถูกกว่า Oracle มาก รูปดังกล่าวผู้เขียนเห็นมาตั้งแต่ Datasheet ของ Microsoft SQL Server 2016 และตัวเลขไม่ได้ต่างไปจากเดิมเลย
Power Pivot เป็นอีกความสามารถเด็ดในการทำงานกับข้อมูลใน Excel ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถนำข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ มาสร้าง Data Model เพื่อสร้างความสัมพันธ์ของข้อมูลต่างๆ เข้าหากัน ซึ่งอาจจะมาจากคนละระบบ ซึ่งจำนวน Records จะไม่ใช่ข้อจำกัดของ Excel อีกต่อไป คือสามารถ Import ข้อมูลมาเก็บใน Data Model ด้วย Power Pivot ได้อย่างไม่อั้นอีกด้วย โดยขนาดของข้อมูลจะเล็กกว่าการใช้ Excel ปกติเก็บข้อมูลอีกด้วย
เหลืออีกไม่กี่ตอนก็ใกล้จะจบการเล่าถึง Microsoft SQL Server 2017 Datasheet กันแล้วในครั้งนี้ผู้เขียนจะพูดถึง Graph Data Model ที่ Microsoft ใส่เข้ามาในผลิตภัณฑ์ Microsoft SQL Server 2017 ทั้งที่ Microsoft SQL Server ทำงานบน Relational Model เป็นหลัก ซึ่งทำให้ลูกค้าที่มีความจำเป็นต้องใช้ Graph Database แต่มีใช้ Microsoft SQL Server อยู่แล้วไม่นอกใจและหันไปหาผลิตภัณฑ์อื่น อาทิ Neo4j มาใช้งานเพิ่มเติม