บทความ

The ‘Power Platform’ is a collective term for four Microsoft products: PowerApps, Power Automate, Power BI and Power Virtual Agents software applications. They help people to create App, Workflow, Data Analytics and Chatbot with Power Fx programming language, AI Builder and various of connectors. This will empower the people to next level of modern working and automation.

Microsoft Power Platform เป็นชุดซอฟต์แวร์ ประกอบด้วย Power Apps, Power Automate, Power BI และ Power Virtual Agents เพื่อสร้าง App การสร้าง Workflow และการวิเคราะห์ข้อมูล และ Business Intelligence ด้วยเทคโนโลยีแบบ Low Code Platform พัฒนาด้วยภาษา Power Fx อีกทั้งมี AI และการเชื่อมต่อให้มากมาย ช่วยให้เราสามารถสร้างนวัตกรรมต่าง ๆ ได้ง่ายและรวดเร็ว เพิ่มศักยภาพให้ผู้ใช้งานให้ทำงานในอีกระดับ

แนะนำการใช้งานฟังก์ชัน XLOOKUP ใน Microsoft Excel เพื่อทำงานในรูปแบบ VLOOKUP แต่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากกว่า พร้อมตัวอย่างการใช้งานและไฟล์ตัวอย่างให้ Download

Power Automate เป็นซอฟต์แวร์ด้าน RPA สามารถสร้าง Workflow ต่าง ๆ เพื่อทำงานอัตโนมัติได้ มาเรียนรู้ประเภทของ Workflow ของ Microsoft Power Automate กัน

เปรียบเทียบ Robotic Process Automation (RPA) ต่าง ๆ ว่ามีซอฟต์แวร์ใดน่าสนใจบ้าง และใครเป็น Leader ในกลุ่มนี้

Microsoft Power Fx เป็นภาษาในรูปแบบสูตร (Formula Language) ใช้สำหรับ Low-Code Platform เริ่มใช้งานใน Microsoft Power Platform ใน Canvas App ของ Power Apps โดยมีแรงบันดาลใจมาจากสูตรของ Microsoft Excel เพื่อให้การพัฒนานั้นเขียนโค้ดน้อยลง และยังประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการพัฒนาอีกด้วย

แนะนำการใช้งานฟังก์ชัน RANKX ซึ่งเป็นฟังก์ชันของ DAX (Data Analysis Expression) สามารถใช้งานใน Power BI, Power Pivot ของ Excel และ SSAS ได้ พร้อมตัวอย่างการใช้งานและไฟล์ตัวอย่างให้ Download

การคำนวณใน DAX (Data Analysis Expression) เป็นส่วนที่สำคัญมาก ๆ ใน Power BI, SSAS, Power Pivot โดย Measures เป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่คนเริ่มต้นกับ Power BI อาจจะยังไม่เข้าใจหลักการและการใช้งาน ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้การสร้าง Measures กัน

แนะนำการใช้งานฟังก์ชัน SUMX ซึ่งเป็นฟังก์ชันของ DAX (Data Analysis Expression) สามารถใช้งานใน Power BI, Power Pivot ของ Excel และ SSAS ได้ พร้อมตัวอย่างการใช้งานและไฟล์ตัวอย่างให้ Download

การคำนวณใน DAX (Data Analysis Expression) เป็นส่วนที่สำคัญมาก ๆ ใน Power BI, SSAS, Power Pivot ซึ่งการคำนวณนั้นจะสร้างได้ทั้ง Calculated Column, Measures ได้ ซึ่งการเลือกใช้ให้เหมาะสมจะได้ทั้งในเรื่องประสิทธิภาพและความถูกต้อง

Microsoft Power Platform เป็นชุดของ ซอฟต์แวร์ที่จะช่วย วิเคราะห์ข้อมูล สร้างโซลูชั่น ทำ Workflow และสร้าง Chatbot โดยเขียนโค้ดน้อยมาก (Low Code Platform) รวมเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น AI การเก็บข้อมูล และ Data Connectors ให้มากกว่า 400 connections

ชุดกลไก ETL ผู้เขียนบรรยายไว้ในบทความชื่อ “กลไก ETL คืออะไร” และได้แนะนำ Microsoft SQL Server Integration Service (SSIS) ว่าเป็นแพลตฟอร์มสำหรับ ETL คุณภาพสูง เอาไว้ในบทความดังกล่าว แต่ยังมีเครื่องมือสำหรับ ETL อีกตัวหนึ่งชื่อ Power Query ได้รับความนิยมมากในขณะนี้ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของ Power BI Desktop (หรือเป็น add-in ของ Microsoft Excel) เหมาะกับงานในลักษณะ Self-Service ETL และมีความซับซ้อนน้อยกว่า SSIS

สำหรับบทความนี้จะแนะนำ Data Model ทั้งสองแบบอีกครั้งในเชิงเปรียบเทียบ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม

ในบทความ มีอะไรใหม่ใน .NET Core 3 และ C# 8 : Stackalloc ซ้อนนิพจน์ ได้พูดเรื่อง stackalloc ที่เริ่มตั้งแต่ C#8 และ .NET Core 3.0 ถ้าผลลัพธ์ของนิพจน์ stackalloc มีชนิดข้อมูลเป็นแบบ System.Span<T> หรือ System.ReadOnlySpan<T> เราสามารถใส่นิพจน์ stackalloc ซ้อนไว้ภายในนิพจน์อื่น ๆ ได้ สำหรับบทความนี้จะกล่าวถึง ลักษณะการบัฟเฟอร์ข้อมูลของ Memory<T> และ Span<T> ว่ามีข้อควรพิจารณาในการใช้งานอย่างไร

จากบทความ มีอะไรใหม่ใน .NET Core 3 และ C# 8 : Stackalloc ซ้อนนิพจน์ ได้พูดถึง คุณสมบัติ Span<T> ไว้ และได้บอกว่ามันคือ ref struct ในหัวข้อนี้จะขออธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ ref struct โดยย่อพอเข้าใจ

.NET 5.0 มีการปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่ม Feature ใหม่ๆ สำหรับบทความนี้ขอแนะนำให้รู้จักกับ Records Types ในภาษา C# ซึ่งเป็น Version 9.0 (C# 9)

ETL ย่อมาจาก Extract Transform Load ซึ่งเป็นลำดับของกลไก ETL เพื่อนำข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่ยังไม่พร้อมนำมาใช้งานเพื่อการวิเคราะห์มาทำให้พร้อมใช้งาน (Data Preperation) โดยอายุอานามของชุดกลไก ETL นี้ไม่ต่ำกว่า 50 ปีมาแล้ว เกิดมาพร้อมกับการบัญญัติศัพท์ “Data Warehouse” ขึ้นโดย Bill Inmon - Wikipedia ตอนกลางยุค 70

เมื่อเรามีการเขียนคำสั่งในการสร้างอ็อบเจกต์ จะมีการใช้พึ้นที่บนหน่วยความจำในการเก็บค่าต่าง ๆ แต่ปรกติเราไม่จำเป็นต้องทำลายอ็อบเจกต์ เพราะอ็อบเจกต์ส่วนใหญ่จะถูก garbage collector นำไปทำลายโดยอัตโนมัติเมื่อหมดหน้าที่การทำงานแล้ว

นอกจากการจะใช้คำสั่ง using เพื่อทำ Using declarations ซึ่งเป็นการใช้กับการประกาศตัวแปรหรือ Object ภายในไฟล์ ซึ่งสามารถอ่านได้ที่บทความ Using declarations ใน .NET Core 3 และ C#8 ภาษา C# ยังมีการใช้คำสั่ง using ในลักษณะอื่นอีกได้แก่ 1. การใช้ using เพื่อการกำหนด namespace ที่ต้องการอ้างถึงเพื่ออำนวยความสะดวกให้ไม่ต้องอ้างถึงคลาสหรือสิ่งต่าง ๆ แบบ fully qualify

.NET 5.0 เป็นเวอร์ชั่นใหม่ของ .NET Core ต่อจากเวอร์ชั่น 3.1 โดยชื่อจะเรียก “.NET 5.0” แทนที่จะเป็น .NET Core 4.0 โดยทางบริษัทไมโครซอฟต์มีเหตุผลหลัก ๆ คือ

Microsoft Excel เป็นเครื่องมือในการทำงานกับข้อมูลสำหรับการเริ่มต้น สามารถจัดเก็บข้อมูล เตรียมข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูล นำเสนอในรูปแบบ Dashboard ได้

Shortcut keys Excel หรือ คีย์ลัด ใน Microsoft Excel เป็นเครื่องมือที่ช่วยทำงานบน Excel อย่างมีประสิทธิภาพมาก และก็มีผลอย่างมากหากใช้ในตอนบันทึกมาโคร (Record Macro) ทำให้การทำงานของ Macro Excel ที่บันทึกไว้มีประสิทธิภาพและมีความรวดเร็ว เพราะหากกระบวนการบันทึก Macro มีขั้นตอนมากเกินความจำเป็นก็จะส่งผลต่อความเร็วในการ Run Macro อย่างมาก

ทางทีมงาน 9Expert จะมาให้คำแนะนำว่าการบันทึก Macro (Record Macro) สามารถเก็บได้กี่แบบ และในแต่ละแบบมีข้อดีหรือข้อเสียอะไรบ้าง รวมถึงคำแนะนำลักษณะงานของการเก็บมาโครแต่ละแบบ

คำถามที่ผู้เริ่มใช้ Macro อยากจะรู้มาก ๆ ตอนนี้ คือ จะเริ่มต้นใช้ Macro Excel อย่างไร, ต้องทำอย่างไรบ้าง หรือต้องไปกำหนดการตั้งค่าอย่างไร รวมถึงต้องทำอย่างไรเพื่อสร้าง Macro ออกมา วันนี้ทางทีม 9Expert จะมาแนะนำให้รู้กันตั้งแต่เริ่มต้นเลย

คุณรู้หรือไม่ว่า Excel มีเครื่องมือ ที่ช่วยให้การทำงานดังกล่าวนี้ ทำงานได้แบบอัตโนมัติเพียงแค่ 1 คลิก แล้วทุกอย่างก็จะทำให้คุณเสร็จได้ในเวลาที่ลดลงกว่าคุณลงมือทำเองโดยตรงอย่างมาก เครื่องมือดังกล่าว เรียกว่า Macro (มาโคร) ใน Microsoft Excel

บทความนี้กล่าวถึง Using declarations ใน .NET Core 3 และ C#8 เปรียบเทียบกับการใช้ Using แบบเดิมก่อนที่เขียนใน Version ก่อนหน้า

ฟังก์ชั่น LET เป็นฟังก์ชั่นใหม่ของ Excel เพื่อใช้ในการกำหนดค่าของ name ในสูตร ส่งผลให้การคำนวณทำได้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสื่อความหมายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ภาษา M (M Language) เป็นภาษาสคริปต์ที่ทำงานในหลังฉากเมื่อเราสร้างสูตรด้วย Power Query ใน Power BI และ Excel ถูกสร้างโดย Microsoft หน้าที่หลักของภาษา M คือการแปลงข้อมูล (Data Transformation) การ ETL (Extract Transform Load)

Data Validation คือ ความสามารถในการกำหนด ว่าช่อง Cell นั้น สามารถระบุข้อมูลหรือค่าอะไรได้บ้าง และที่เจ๋งสุด ๆ คือ สามารถกำหนดข้อมูลที่ระบุใน Cell เป็นแบบ dropdown list ได้

เรียนรู้ใช้ Power Query เปลี่ยนข้อมูล PivotTable เป็น ข้อมูลที่พร้อมใช้ ด้วยคำสั่ง Unpivot Columns